รายงานความยั่งยืนคืออะไร?
รายงานความยั่งยืนหมายถึง บริษัทเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม รวมถึงการกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องในช่วงเวลาที่กำหนด เป็นเครื่องมือสื่อสารสำคัญระหว่างบริษัทกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุน พนักงาน ลูกค้า หรือหน่วยงานกำกับดูแล ผ่านรายงานความยั่งยืนสามารถเข้าใจการปฏิบัติตามหลักการ ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม การกำกับดูแล) ของบริษัทได้
ในยุคที่ประเด็น ESG ได้รับความสนใจมากขึ้น การจัดทำรายงานความยั่งยืนที่มีคุณภาพ ไม่เพียงช่วยให้บริษัทตอบสนองต่อการคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย แต่ยังเพิ่มโอกาสในการดึงดูดนักลงทุน ปรับปรุงภาพลักษณ์องค์กร รวมถึงค้นพบความเสี่ยงและโอกาสที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการจัดทำ
ก่อนเริ่มเขียน ต้องรู้จัก GRI ก่อน
หลายบริษัทที่เพิ่งเริ่มจัดทำรายงาน อาจไม่รู้ว่าควรอ้างอิงกรอบการรายงานใด ปัจจุบันมีมาตรฐานที่เกี่ยวข้องมากมาย เช่น GRI (Global Reporting Initiative), SASB (Sustainability Accounting Standards Board), ที่นิยมที่สุดคือ GRI Standards
GRI เป็นหนึ่งในมาตรฐานการรายงานความยั่งยืนที่ใช้กันแพร่หลายที่สุดในโลก โดยกำหนดให้บริษัทเปิดเผยข้อมูลใน 3 มิติหลัก: เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม พร้อมให้ตัวชี้วัดเฉพาะเจาะจงสำหรับแต่ละมิติ
เนื่องจากมาตรฐาน GRI มีข้อกำหนดมากมาย ผู้จัดทำรายงานจึงต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจ ในบทความนี้จะแนะนำวิธีใช้เครื่องมือค้นหาฐานข้อมูล ESG เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจโครงสร้างรายงานและเนื้อหาการเปิดเผย

วิธีใช้ฐานข้อมูล ESG
คุณอาจสงสัยว่า: บริษัทอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกันเขียนอย่างไร? วิธีหาตัวอย่างรายงานความยั่งยืน และตัวอย่างการเขียนตัวชี้วัดต่างๆ?
เป็นเรื่องปกติที่ผู้จัดทำรายงานจะค้นหาแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดจากบริษัทอื่น เพื่อศึกษาว่าบริษัทเหล่านั้นตอบสนองต่อตัวชี้วัดการเปิดเผยอย่างไร แต่การศึกษารายงานทีละฉบับต้องใช้เวลามาก
ฐานข้อมูล ESG จึงเป็นตัวช่วยสำคัญ!
ฐานข้อมูล ESG สามารถช่วยคุณค้นหา เปรียบเทียบ และวิเคราะห์ข้อมูล ESG ของบริษัทต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ประหยัดเวลาได้มาก ต่อไปนี้จะแนะนำวิธีใช้ Sustaihub ESG Database ค้นหาแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด:
ขั้นตอนที่ 1: ค้นหาข้อมูล ESG ของบริษัทคู่แข่ง
หลังจากเปิด Sustaihub ESG Database สามารถค้นหาบริษัทด้วยชื่อหรือรหัสหุ้น ในตัวอย่างนี้เราค้นหา "ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ไต้หวัน"
หลังคลิกที่บริษัท จะเห็นข้อมูลพื้นฐานของบริษัท รวมถึงเอกสารรายงานที่เผยแพร่ และข้อมูลคะแนน ESG อย่างละเอียด

ขั้นตอนที่ 2: เปรียบเทียบข้อมูล ESG หลายบริษัท
Sustaihub ESG Database มีฟังก์ชัน "เปรียบเทียบบริษัท" ช่วยให้คุณดูผลงาน ESG ของบริษัทต่างๆ ได้ในหน้าเดียว รวมถึงเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม
นอกจากการเปรียบเทียบด้วยตัวเอง ระบบยังมีรายการ "บริษัทที่คล้ายกัน" ซึ่งระบบคัดเลือกบริษัทที่มีผลงาน ESG ใกล้เคียงกันให้อัตโนมัติ

ขั้นตอนที่ 3: ค้นหาตัวอย่างเนื้อหาการตอบ GRI
อีกฟังก์ชันที่สำคัญคือ "การค้นหาตัวชี้วัด" ซึ่งช่วยค้นหาคำอธิบายตัวชี้วัดต่างๆ ของบริษัท ไม่ว่าจะเป็น GRI, SASB, SDGs หรือเป้าหมายลดคาร์บอน วิธีที่บริษัทต่างๆ เปิดเผยข้อมูลสามารถเป็นข้อมูลอ้างอิงสำหรับการเขียนรายงานของคุณได้!
ตัวอย่างเช่น เราต้องการทราบว่าบริษัทในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์เปิดเผยข้อมูล GRI 302-1 (การใช้พลังงานภายในองค์กร) อย่างไร เราสามารถใช้ฟังก์ชันนี้ค้นหาได้ทันที
นี่คือข้อได้เปรียบของฐานข้อมูล ESG: คุณไม่จำเป็นต้องค้นหาและอ่านรายงานทีละฉบับอีกต่อไป ฐานข้อมูลทำหน้าที่รวบรวมและจัดหมวดหมู่ให้คุณแล้ว!
สรุป
การจัดทำรายงานความยั่งยืนเป็นงานที่ต้องใช้เวลาและแรงงานมาก แต่ถ้าใช้เครื่องมือที่เหมาะสม จะประหยัดเวลาได้มากและยกระดับคุณภาพรายงาน
Sustaihub ESG Database รองรับการค้นหาหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์คู่แข่ง การเปรียบเทียบอุตสาหกรรม หรือการค้นหาตัวชี้วัด สามารถช่วยผู้จัดทำรายงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้การจัดทำรายงานความยั่งยืนไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป!
หากคุณสนใจศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Sustaihub ESG Database ยินดีต้อนรับสู่ เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม!
